3 วิธีเก็บเงินให้อยู่หมัดเพื่อวางแผนอนาคตที่ดี

ข้อที่ 1 : เงินที่ไม่เห็น = เงินที่ไม่ได้ใช้
     ถ้าไม่อยากใช้เงินในบัญชี เราต้องหาทางไปให้กับเงินนั้น เช่น
     กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถ้าบริษัทมีกองทุนนี้ แนะนำให้ใช้ โดยบริษัทจะทำการตัดเงินอัตโนมัติ เข้าบัญชีทันทีทุกสิ้นเดือน เลือกเก็บในอัตราสูงสุดที่เราเก็บไหว ส่วนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่ากรณีที่นายจ้างมีการสมทบเพิ่มให้ในกรณีที่สะสมเพิ่ม อย่างน้อยเราควรสะสมในเปอร์เซ็นต์ (%) ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด รวมถึงการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการลงทุนเพื่อเลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับเราด้วย
     กองทุนลดหย่อนภาษี เพียงเพิ่มเติมการตัดเงินเข้าบัญชีกองทุนอัตโนมัติทันทีเมื่อเงินเดือนเข้าบัญชี ที่สำคัญอย่าลืมเลือกแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง และผลตอบแทนที่เราต้องการด้วย
     บัญชีเงินฉุกเฉินหรือเงินออม สำหรับคนที่ยังไม่ต้องการลงทุน แต่ต้องการสำรองเงินไว้ ก็อาจจะเลือกใช้บัญชีเงินฝากธนาคารเป็นทางเลือกในการตัดเงินเข้าบัญชีได้ แต่ต้องไม่ใจอ่อน ถอนเงินมาใช้โดยไม่จำเป็น หรือถ้าไม่ต้องการเงินฉุกเฉิน ก็ให้เลือกบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี ที่บังคับให้เราฝากเงินเข้าบัญชีทุกเดือนเท่าๆ กัน เป็นการสร้างวินัยการเก็บเงินไปในตัว

ข้อที่ 2 : แบ่งบัญชีใช้จ่ายให้ชัดเจน
     หลังจากที่เก็บเงิน (ก่อน) ตามวิธีในข้อแรก ให้แบ่งบัญชีใช้จ่ายเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งทั้ง 2 บัญชี จะมีวัตถุประสงค์ต่างกัน
     • บัญชีใช้จำเป็น คือ บัญชีที่ไว้ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ค่าของกิน เดินทาง ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ เพื่อจำกัดให้เงินอยู่ในกรอบของการใช้จ่ายที่เราต้องมี
     • บัญชีใช้ฟุ่มเฟือย คือ บัญชีใช้ตามใจ เพื่อให้รางวัลชีวิต เช่น การชอปปิง ปาร์ตี้ ท่องเที่ยว
     ถ้าจะแบ่งเงิน 2 บัญชีนี้ให้ดีและเป๊ะมากๆ ควรทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย จะได้เห็นตัวเลขการใช้จ่ายของเรา เพราะบางทีแค่บัญชีจำเป็น เราก็ไม่เหลือเงินไปฟุ่มเฟือยแล้ว แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้กำหนดงบประมาณของตัวเอง แล้วลองปรับให้เหมาะกับตัวเรา

ข้อที่ 3 : กำหนดเป้าหมายให้ชัด
     ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเก็บเงิน หรือใช้จ่ายอย่างที่ว่ามา จะทำให้เรามีวินัยและจัดการเงินได้ดีขึ้น
     ลองเช็กตัวเองว่า เงินที่เราเก็บ เก็บเพื่ออะไรบ้าง เป้าหมายการเงินระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเป็นแบบไหน สิ่งที่ทำอยู่ตอบโจทย์มากหรือน้อยเพียงใด จะทำให้เงินที่เราเก็บมีที่มาที่ไปชัดเจนขึ้น
     เช่นเดียวกับการใช้จ่าย เงินที่เราจ่าย จ่ายไปกับอะไร การใช้จ่ายอย่างมีเป้าหมาย จะทำให้เรารู้สึกว่า ได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า