ข้อควรระวังเกี่ยวกับ การแสดงเจตนาเลิกจ้างลูกจ้าง

โดย

 


 
ข้อควรระวังเกี่ยวกับ การแสดงเจตนาเลิกจ้างลูกจ้าง


   
  
สัญญาจ้างแรงงาน เป็นสัญญาในทางแพ่ง เกิดขึ้นจากการแสดงเจตนาตกลงร่วมกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง โดยลูกจ้างตกลงรับทำงานตามคำสั่งให้แก่นายจ้าง และนายจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างเพื่อตอบแทนการทำงานให้แก่ลูกจ้าง สัญญาจ้างแรงงานเกิดได้ด้วยการแสดงเจตนาตกลงกันของคู่สัญญา สัญญาดังกล่าวก็อาจระงับสิ้นไปด้วยการแสดงเจตนาของคู่สัญญาได้ดุจกัน การสิ้นสุดสัญญาจ้างอาจเกิดได้ 3 กรณี
      กรณีแรก ลูกจ้างเป็นฝ่ายแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาด้วยการลาออก (Resignation) มีผลทำให้สัญญาจ้างสิ้นสุดลงตามการแสดงเจตนาของลูกจ้าง โดยไม่จำต้องได้รับอนุญาต หรือได้รับความยินยอมจากนายจ้าง
      กรณีที่สอง นายจ้างเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาด้วยการเลิกจ้าง (Dismissal) ได้แก่ การแสดงเจตนาของนายจ้างที่ไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไป และไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ไม่ว่าเพราะสัญญาจ้างสิ้นสุดลงแล้วนายจ้างไม่ต่อสัญญาหรือเหตุอื่นใด เช่น การประพฤติผิดวินัย ปัญหาด้านสุขภาพ ผลงานไม่มีดี ต่ำกว่าเกณฑ์ ผลประกอบการขาดทุน ฯลฯ รวมไปถึงกรณีที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้าง เพราะนายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการต่อไปได้ และลูกจ้างพ้นสภาพจากการเป็นลูกจ้างเพราะเกษียณอายุด้วย
      กรณีที่สาม เป็นกรณีที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงให้สัญญาจ้างแรงงานสิ้นสุดลง (Mutual Termination) อาจเป็นการตกลงเลิกสัญญาจ้างกับลูกจ้างเป็นรายๆ หรืออาจตกลงกับกลุ่มลูกจ้างที่มักจัดทำในรูปแบบโครงการเกษียณอายุก่อนครบกำหนด
      ในกรณีของการเลิกจ้าง จะมีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานบัญญัติให้ความคุ้มครองลูกจ้างไว้ในหลายประการ เช่น โดยทั่วไป หากนายจ้างต้องการเลิกจ้างลูกจ้างตามสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน นายจ้างจะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้ลูกจ้างทราบก่อนการเลิกจ้าง มิฉะนั้น จะต้องรับผิดจ่ายสินจ้างหรือค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้าง และนายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 120 วันขึ้นไป โดยมีอัตราตั้งแต่ค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน ไปจนถึงค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน เป็นต้น ในการเลิกจ้าง นายจ้างยังมีหน้าที่ต้องแจ้งเหตุผลของการเลิกจ้างให้ลูกจ้างทราบในขณะที่เลิกจ้างด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกจ้างมีสิทธิในการรับรู้ว่านายจ้างนำข้อเท็จจริงและเหตุผลใดมาเลิกจ้างลูกจ้าง เป็นไปตามหลักคิดในเรื่อง Right to know เห็นได้จากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 119 วรรคท้าย บัญญัติว่า “การเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามวรรคหนึ่ง ถ้านายจ้างไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุที่เลิกจ้างไว้ในหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้าง หรือไม่ได้แจ้งเหตุที่เลิกจ้างให้ลูกจ้างทราบในขณะที่เลิกจ้าง นายจ้างจะยกเหตุนั้นขึ้นอ้างในภายหลังไม่ได้” กรณีนายจ้างใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาด้วยการเลิกจ้าง จึงต้องแสดงเจตนาให้ถูกต้องตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานบัญญัติไว้ มิฉะนั้น จะเสียสิทธิประโยชน์บางประการ

บางส่วนจากบทความ : ข้อควรระวังเกี่ยวกับการแสดงเจตนาเลิกจ้างลูกจ้าง โดย : พงษ์รัตน์ เครือกลิ่น /
Section : กฎหมายแรงงาน / Column : กฎหมายคุ้มครองแรงงาน อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่...
วารสาร HR Society ปีที่ 23 ฉบับที่ 272 เดือนสิงหาคม 2568

 
 


FaLang translation system by Faboba