ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าล่วงเวลาในวันหยุด ค่าทำงานในวันหยุด และค่าตอบแทนการทำงานเกินเวลาทำงานปกติ
โดย
 |
|
ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าล่วงเวลาในวันหยุด ค่าทำงานในวันหยุด และค่าตอบแทนการทำงานเกินเวลาทำงานปกติ
|
1. ค่าจ้าง เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่าย เพื่อตอบแทนการทำงานตามสัญญาจ้าง สำหรับระยะเวลาทำงานปกติในวันทำงาน รวมถึงค่าจ้างในวันหยุด/วันลาที่ไม่มีการทำงาน แต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับ 1.1. เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงจ่าย ต้องเป็นเงิน ถ้าเป็นสิ่งตอบแทนอื่นที่ไม่ใช่เงินให้ถือว่าไม่ใช่ค่าจ้าง เช่น รถประจำตำแหน่ง รถรับส่ง หอพัก การประกันชีวิต ประกันสุขภาพ อาหาร ส่วนแบ่งหุ้น น้ำมันเชื้อเพลิง สิทธิซื้อสินค้าราคาพิเศษ สิทธิพักอาศัยโรงแรม ฯลฯ 1.2. การจ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน ต้องจ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานตามสัญญาจ้าง เช่น เงินเดือน ค่าแรงรายวันฯ เงินที่จ่ายเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น จ่ายเป็นสวัสดิการ จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน จ่ายให้ขยันทำงาน ทำงานดี รักองค์องค์กร ลดการทำงานผิดพลาด ฯลฯ ไม่ใช่จ่าย เพื่อตอบแทนการทำงาน ไม่เป็นค่าจ้าง - กรณีจ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน • ค่าครองชีพ • ค่าเบี้ยเลี้ยงทำงานต่างจังหวัดและค่าที่พัก จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานประจำที่ต่างจังหวัด • ค่าเบี้ยเลี้ยง ลูกจ้างปฏิบัติงานบนเรือ • เงินประจำไซด์งาน ของผู้จัดการโครงการ • เงินเพิ่มพิเศษเมื่อทำงานบนแท่นขุดเจาะ • เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการทำงานกะ • เงินค่ากะดึก จ่ายทดแทนไม่ได้จัดอาหารราคาถูก • เงินค่าเที่ยวของพนักงานขับรถ • เงินค่าเที่ยวจูงใจของพนักงานขับรถ จ่ายเพื่อให้ขับรถโดยมีการบรรทุกสินค้าและประหยัดเชื้อเพลิง • เงินค่าตำแหน่งของผู้จัดการคลังสินค้า • เงินค่าคอมมิสชั่นจ่ายตามยอดรถยนต์ที่ขายได้ • เงินค่าเปอร์เซ็นต์การขาย • ค่านายหน้าจากการขาย ในอัตราร้อยละ 1 จากยอดเงินที่เรียกเก็บจากลูกค้า • เงินค่าคอมมิชชั่น จ่ายเพื่อจูงใจให้ผลงานการขายเพิ่มมากขึ้น • เงินค่าคอมมิชชั่นจูงใจ ต้องทำยอดขายตามที่กำหนด • เงินค่าชั่วโมงบิน ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
2. ค่าล่วงเวลา การทำงานล่วงเวลาเป็นการทำงานนอกหรือเกินเวลาทำงานปกติ ซึ่งหากนายจ้างมีคำสั่งให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาและลูกจ้างยินยอม นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างในอัตรา 1.5 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง (การทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน) หรือ 3 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง หากเป็นการทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 61 และมาตรา 63 แห่ง พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และในการทำงานล่วงเวลานั้นลูกจ้างไม่จำเป็นต้องทำงานครบ 8 ชั่วโมงตามที่นายจ้างกล่าวอ้าง ดังนั้น หากนายจ้างให้ท่านทำงานล่วงเวลาตั้งแต่ เวลา 17.30-19.30 น. ท่านก็มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
3. ค่าล่วงเวลาในวันหยุดและวันลา 3.1. ค่าล่วงเวลาในวันหยุด ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ (ยกเว้นไม่ใช่รายเดือน)วันหยุดตามประเพณีและวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้าง 3.2. ค่าล่วงเวลาในวันลา - นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันลาป่วยปีหนึ่งไม่เกิน 30 วัน - นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันลาเพื่อทำหมัน ตามที่แพทย์กำหนด และออกใบรับรอง - นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันลาคลอดตลอดเวลาที่ลาแต่ไม่เกิน 45 วัน - นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันลากิจธุระจำเป็นปีหนึ่งไม่เกิน 3 วัน - นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันลาราชการทหารปีหนึ่งไม่เกิน 60 วัน - นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันลาเพื่อทำกิจกรรมสหภาพแรงงาน
4. ค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท - ลูกจ้างรายวัน หรือลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างที่คำนวณตามผลงาน หากไม่มาทำงานในวันหยุดก็ไม่ได้ค่าจ้าง แต่หากมาทำงานก็จะได้รับค่าทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 2 เท่า - ลูกจ้างรายเดือน ซึ่งนายจ้างไม่สนใจว่าจะมาทำงานเดือนละกี่วัน หรือมีวันหยุดกี่วันนายจ้างก็เหมาจ่ายเป็นรายเดือน ซึ่งทำให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างแม้ไม่มาทำงานในวันหยุดการทำงานในวันหยุด
5. ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณี หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปี กฎหมายกำหนดให้มีลูกจ้างทุกประเภททั้งรายวัน ตามผลงาน หรือรายเดือนมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด หมายความว่าแม้ไม่มาทำงานก็ได้รับค่าจ้าง แต่ถ้ามาทำงานในวันหยุดตามประเพณี หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปีลูกจ้างทุกประเภทก็จะได้รับค่าทำงานในวันหยุดเพิ่มอีก 1 เท่า เหตุที่ได้ 1 เท่าเพราะแม้ไม่มาทำงานก็ได้ค่าจ้างอยู่แล้ว
|
|
|