งาน HR ในปี 2025 ทิศทางและความเปลี่ยนแปลงที่ HR ต้องรู้

โดย

 


 
งาน HR ในปี 2025 ทิศทางและความเปลี่ยนแปลงที่ HR ต้องรู้


     คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารในธุรกิจคัดสรรบุคลากร เป็นองค์กรที่ใช้ AI ในธุรกิจอย่างจริงจัง ที่จะทำให้เห็นแนวโน้มและทิศทางของงาน HR ที่กำลังเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ
     แนวโน้มการจ้างงานและอัตราค่าตอบแทนในตลาดแรงงานปี 2025 จะเป็นอย่างไร และตำแหน่งงานใดที่มีความต้องการสูงในตลาด
     
“ถ้าดูจากข้อมูลพบว่า ปี 2566 มีแนวโน้มการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นหลัก ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% และ 5% ตามลำดับ และข้อมูลจากการสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่มีการจ้างงานอย่างคงที่ตลอดทั้งปี สิ่งที่น่าสนใจ คือ ประเภทของพนักงานที่ได้รับการจ้างงาน จะเป็นพนักงานตามสัญญาจ้าง หรือพนักงานชั่วคราวแบบเต็มเวลา โดยเพิ่มขึ้น 17% สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก 22% สำหรับธุรกิจขนาดกลาง และ 20% สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในการสรรหาบุคลากร ซึ่งอาจเกิดจากความต้องการการยืดหยุ่นและตำแหน่งที่รับผิดชอบงานเป็นโปรเจกต์
     ส่วนเรื่องผลตอบแทนและสวัสดิการ ในช่วงล็อกดาวน์จากโควิด-19 เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการและพนักงานส่วนใหญ่ ทั้งปี 2565 และปี 2566 มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทส่วนใหญ่จึงขึ้นเงินเดือนให้พนักงานเฉลี่ยที่ 6.69% สูงกว่าปี 2565 ที่มีอัตราการขึ้นเงินเดือนอยู่ที่ 5% ประเด็นสำคัญ คือ อัตราการเพิ่มเงินเดือนนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อของประเทศในปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 6.08% หมายความว่า พนักงานไม่เพียงแต่ได้เงินเดือนครอบคลุมในส่วนที่ต้องเสียไป แต่ยังได้เพิ่มผลตอบแทนอีกด้วย สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และอนาคตที่สดใสสำหรับแรงงาน
     ตำแหน่งที่มีความต้องการสูงก็เปลี่ยนไปจากปีที่แล้ว ซึ่ง 5 อันดับแรกของตำแหน่งงานที่บริษัทจ้างงานในปี 2566 มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปี 2565 ยุ้ยมองว่าความแตกต่างสำคัญ คือ ตำแหน่งธุรการและทรัพยากรบุคคล ตำแหน่งบัญชี ครองตำแหน่งสูงสุด 2 อันดับแรกอยู่ที่ 42% ในขณะที่ตำแหน่งงานเข้าใหม่ที่อยู่ใน 5 อันดับแรก คือ ตำแหน่งงานขาย / พัฒนาธุรกิจ ตามด้วยการตลาด / การสร้างแบรนด์ และวิศวกร แสดงให้เห็นถึงความต้องการในตลาดสำหรับตำแหน่งงานเหล่านี้ของธุรกิจในปัจจุบัน”
     ในอีก 3 ปีข้างหน้า เทคโนโลยี AI จะส่งผลต่อการทำงานด้าน HR ในแต่ละด้านอย่างไร
     “การนำ AI มาใช้ในงาน HR ไม่เพียงแค่ช่วยให้การทำงานรวดเร็วและแม่นยำขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่ม ROI (Return On Investment) ให้กับองค์กรผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านของการจัดการทรัพยากรบุคคลด้วย ยกตัวอย่างงานด้าน Recruitment เทคโนโลยี AI จะช่วยให้การจับคู่ผู้สมัครกับตำแหน่งงานแม่นยำขึ้น โดย AI สามารถกรองและวิเคราะห์ผู้สมัครที่ตรงกับคุณสมบัติที่ต้องการ ลดเวลาในการสรรหาและต้นทุนที่เกิดจากการคัดกรองคนไม่ตรงตำแหน่ง ทำให้ HR สามารถวัด ROI จากการสรรหาที่ดีขึ้น เนื่องจากการได้พนักงานที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการขององค์กรตั้งแต่ต้น จะช่วยลดการเปลี่ยนงานบ่อยครั้งและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
     ส่วนด้านการพัฒนาและการฝึกอบรม AI จะวิเคราะห์ช่องว่างทักษะของพนักงาน และแนะนำโปรแกรมฝึกอบรมที่เหมาะกับแต่ละบุคคล จะทำให้การพัฒนาตรงจุดมากขึ้น ลดความสูญเสียจากการฝึกอบรมที่ไม่ตอบโจทย์หรือที่ไม่จำเป็นจริงๆ สำหรับการดึงดูดและรักษาพนักงาน AI จะวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและความพึงพอใจของพนักงาน ทำให้ฝ่าย HR สามารถใช้ข้อมูลที่ได้นั้นมาตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และการจัดการทรัพยากรบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
     อีกด้านที่อยากพูดถึง คือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้พนักงาน (Employee Experience) การใช้ AI อย่างเช่น Chatbot ที่ให้ข้อมูลหรือช่วยแก้ปัญหาให้พนักงานอย่างรวดเร็ว จะทำให้พนักงานมีความพึงพอใจมากขึ้น เมื่อพนักงานมีความสุขและรู้สึกได้รับการสนับสนุนจะมีแนวโน้มอยู่กับองค์กรนานขึ้น และมีผลงานที่ดียิ่งขึ้น”

 

บางส่วนจากบทความ : งาน HR ในปี 2025 ทิศทางและความเปลี่ยนแปลงที่ HR ต้องรู้
โดย : กองบรรณาธิการ / Section : - / Column : Cover Story
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่...วารสาร HR Society ปีที่ 23 ฉบับที่ 265 เดือนมกราคม 2568

 
 


 

FaLang translation system by Faboba