สมรสเท่าเทียม...สิทธิที่ผู้ประกันตนมีอยู่อย่างเท่าเทียม
โดย
 |
|
สมรสเท่าเทียม...สิทธิที่ผู้ประกันตนมีอยู่อย่างเท่าเทียม
|
นับตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับ การรับรองสิทธิโดยผลของกฎหมาย “การสมรสเท่าเทียม” จะเป็นจริงและย่อมส่งผลทำให้สังคมไทยเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมที่เท่าเทียมและชัดเจนมากขึ้น เพราะนับแต่นี้จะมิได้มีเพียงครอบครัวที่มีพ่อ แม่ ลูก ที่เจริญเผ่าพันธุ์ตามธรรมชาติเท่านั้น แต่จะเกิดสถาบันครอบครัวอีกรูปแบบหนึ่งที่มีคู่สมรส และ/หรือบุตรที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในส่วนของกฎหมายประกันสังคม ซึ่งคุ้มครองผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ นั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกันตนและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคม จะต้องทำความเข้าใจและมีคำตอบที่ชัดเจนว่า คู่สมรสที่เป็น “หญิง-หญิง” และเป็น “ชาย-ชาย” จะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างไร และหากคู่สมรสดังกล่าวประสงค์จะมี “บุตร” ที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ บุตรของคู่สมรสจะได้รับสิทธิประโยชน์ในฐานะทายาทตามกฎหมายประกันสังคมหรือไม่ ทั้งสิทธิในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย การคลอดบุตร การทุพพลภาพ การตาย การสงเคราะห์บุตร การชราภาพ การว่างงาน เนื่องจากสิทธิบางประเภทเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ประกันตนโดยเฉพาะ แต่สิทธิบางประเภทเป็นสิทธิของคู่สมรส หรือบุตร หรือทายาทผู้มีสิทธิอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 แก้ไขตั้งแต่สิทธิในการหมั้นเมื่อบุคคลทั้งสองฝ่ายมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ (มาตรา 1435) หากฝ่ายใดผิดสัญญาหมั้น ฝ่ายที่ผิดสัญญาหมั้นมีสิทธิเรียกให้รับผิดใช้ค่าทดแทนได้ แต่ถ้าฝ่ายผู้รับหมั้นผิดสัญญาหมั้น ให้คืนของหมั้นแก่ฝ่ายผู้หมั้น (มาตรา 1439) สิทธิในการสมรส เมื่อบุคคลทั้งสองฝ่ายมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่มีเหตุอันสมควรที่ศาลอนุญาตให้สมรสก่อนได้ (มาตรา 1448) การสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่กระทำไม่ได้ (มาตรา 1452) คู่สมรสต้องอยู่กินด้วยกันฉันคู่สมรส ต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน (มาตรา 1461) การสมรสสิ้นสุดเมื่อจดทะเบียนหย่า (มาตรา 1515) การใช้อำนาจปกครองบุตรกรณีคู่สมรสหย่าหรือการอุปการะบุตร (มาตรา 1520 มาตรา 1522) การเป็นทายาทโดยธรรมในการสืบมรดก (มาตรา 1628) และเมื่อจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายนี้แล้ว คู่สมรสย่อมเกิดสิทธิและหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้น “หญิง-ชาย” หรือ “หญิง-หญิง” หรือ “ชาย-ชาย” จะเกิดสิทธิและหน้าที่ต่อกันโดยชอบด้วยกฎหมายก็ต่อเมื่อ ได้จดทะเบียนสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้วเท่านั้น
บางส่วนจากบทความ : สมรสเท่าเทียม...สิทธิที่ผู้ประกันตนมีอยู่อย่างเท่าเทียม โดย : ปรานี สุขศรี / Section : กฎหมายแรงงาน / Column : ประกันสังคม อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่...วารสาร HR Society ปีที่ 23 ฉบับที่ 265 เดือนมกราคม 2568 HR Society Magazine : ฉบับมกราคม 2568 / Section : กฎหมายแรงงาน / Column : ประกันสังคม / ผู้เขียน : ปรานี สุขศรี
|
|
|
|
|
|

|