Negative Income TAX
โดย
|
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Negative Income TAX ครั้งแรก หลังจาก ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงเรื่องนี้ในงาน Vision for Thailand 2024 ถึงการปฏิรูประบบภาษีของไทยไปสู่ระบบ Negative Income Tax เพื่อปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสร้างความเป็นธรรมกับประชาชนให้มากขึ้น โดยแนวคิดดังกล่าวมีที่มาจากนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง มิลตัน ฟรีดแมน (Milton Friedman) เจ้าของคำพูดที่โด่งดังว่า “There's no such thing as a free lunch” หรือในภาษาไทยว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ” ฟรีดแมนเสนอแนวคิดเรื่องนี้เพื่อใช้ลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจนในสังคม โดยการให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยแทนที่จะเก็บภาษีจากพวกเขา ซึ่งแนวคิดนี้ต้องการสนับสนุนให้คนที่มีรายได้ต่ำมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการช่วยเหลือของรัฐ เพื่อให้มีโอกาสที่มากขึ้นหรือมีรายได้ในระดับที่เพียงพอในการใช้ชีวิต หากลองคิดภาพถึงระบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของประเทศไทยที่ใช้วิธีการคำนวณหลักอย่างวิธีเงินได้สุทธิ กำหนดให้ผู้ที่มีคำนวณแล้วมีเงินได้สุทธิถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี คือ ตั้งแต่ 150,000 บาทขึ้นไป และปรับเพิ่มขึ้นตามขั้นบันไดของอัตราภาษี (อัตราก้าวหน้า) ไปจนถึง 35% ซึ่งการจัดเก็บภาษีแบบนี้ผู้ที่มีเงินได้สุทธิมากย่อมต้องเสียภาษีมาก แต่ผู้ที่ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นั้นจะไม่ได้รับอะไรเป็นการชดเชยจากรัฐ ซึ่ง Negative Income TAX เรียกได้ว่าจะเป็นตัวตรงกันข้ามกับหลักคิดนี้ นั่นคือ มองว่าผู้ที่ไม่เสียภาษีเงินได้ แต่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ควรได้รับ “เงินชดเชย” (ภาษี) กลับไปนั่นเองครับ โดยหลักการแล้ว แนวคิดนี้จะมีการกำหนดระดับรายได้ขั้นต่ำ และเงื่อนไขที่ได้รับเงินชดเชยดังกล่าวจากรัฐเป็นอัตราส่วน โดยพิจารณว่าหากบุคคลใดมีรายได้ต่ำกว่าระดับนี้ รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้ เช่น กำหนดระดับรายได้ไว้ที่ 10,000 บาทต่อปี หากมีรายได้ 7,000 บาท รัฐบาลจะจ่ายเพิ่มอีก 3,000 บาท เพื่อให้ถึงระดับ 10,000 บาทที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ดี การชดเชยนี้จะลดลงตามสัดส่วนของรายได้เมื่อบุคคลมีรายได้มากขึ้น จนกระทั่งไม่ต้องการการชดเชยอีกต่อไป จะเห็นได้ว่าจุดประสงค์หลักของแนวคิดดังกล่าว คือ การลดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคมผ่านการสนับสนุนรายได้ให้กับคนที่มีรายได้น้อยนั่นเอง ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้ว หากถามว่าแนวคิดนี้เหมาะกับประเทศไทยหรือไม่ ผมมองว่าอาจจะมีหลายส่วนที่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบภาษีที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถจัดสรรงบประมาณในการจ่ายชดเชยได้อย่างยั่งยืน รวมถึงความมั่นคงเสถียรภาพทางการเมืองและสังคมที่ยอมรับการปฏิรูปสวัสดิการ NIT ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ติดตามกันต่อไป
จากบทความ : รู้จักกับ Negative Income TAX แนวคิดภาษีที่น่าสนใจ โดย : TAX Bugnoms/ Section : Tax Talk / Column : Tax Knowledge / อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่...วารสาร CPD & Account ปีที่ 21 ฉบับที่ 250 เดือนตุลาคม 2567
|
|
|
|
|
|
|