กรมสรรพากรคว้า 2 รางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2563

กรมสรรพากรคว้า 2 รางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2563 

จากการที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ได้สำรวจระดับความพร้อมของรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐของ
ประเทศไทย ประจำปี 2563  รวมทั้งสิ้น 1,926 หน่วยงาน  ผลในปี 2563 กรมสรรพากรเป็น 1 ใน 10 หน่วยงานที่ได้รับ
รางวัลรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government Awards) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่มุ่งมั่นพัฒนา
การบริการดิจิทัล จนประสบความสำเร็จ โดยการได้รับรางวัลรัฐบาลดิจิทัลในครั้งนี้เป็นผลมาจากกรมสรรพากรได้นำ Digital
Transformation มาปรับปรุงกระบวนการทำงานในหลายๆ ส่วนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลโดยยึดผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง
เช่น  My Tax Account /e-Donation บัญชีรายการค่าลดหย่อนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี  e-Tax Invoice &
e-Receipt  การจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบรับที่จัดทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมลงลายมือชื่อ
ดิจิทัล (Digital Signature)
นอกจากนี้กรมสรรพากรยังได้รับอีก 1 รางวัลคือ หน่วยงานดีเด่นด้านการใช้ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ (Data Governance)
จากการดำเนินงานที่สอดคล้องตามพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562
และประกาศคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เรื่องธรรมาภิบาลภาครัฐ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลให้เป็นมาตรฐาน
สากล มีความปลอดภัยสามารถป้องกันภัยคุกคามทางดิจิทัล ทำให้ผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการมั่นใจในการใช้บริการ
อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของกรมสรรพากร ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกคุกคามหรือถูกเปิดเผยโดยมิชอบ เพื่อยกระดับ
การให้บริการของกรมสรรพากรมุ่งสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบต่อไป
ที่มา : กรมสรรพากร


สถาบันการเงินยุติการทำธุรกรรมใหม่ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THBFIX  1 กรกฎาคม 2564

ตามที่จะมีการยุติการเผยแพร่อัตราดอกเบี้ย London Interbank Offered Rate (LIBOR) ภายในสิ้นปี 2564 ซึ่งจะส่ง
ผลให้อัตราดอกเบี้ย Thai Baht Interest Rate Fixing (THBFIX) ที่คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย LIBOR ต้องยุติไปด้วย
นั้น คณะทำงานเตรียมความพร้อมของธนาคารพาณิชย์เพื่อรองรับการยุติการใช้ LIBOR  และธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เห็นชอบร่วมกันที่จะให้สถาบันการเงินทุกแห่งยุติการทำธุรกรรมใหม่ที่เป็นสินเชื่อ ตราสารหนี้ และหุ้นกู้อนุพันธ์
ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THBFIX ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ เพื่อควบคุมปริมาณธุรกรรมคงค้างซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง
ในการเปลี่ยนผ่าน โดยคณะทำงานฯ และ ธปท. ได้ร่วมกันพัฒนาอัตราดอกเบี้ย Thai Overnight Repurchase Rate
(THOR) ขึ้นเพื่อใช้เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่จะแทนอัตราดอกเบี้ย THBFIX ในระยะต่อไป
หลังจากการยุติการเผยแพร่ THBFIX แล้ว ธปท. จะเผยแพร่อัตราดอกเบี้ย Fallback Rate (THBFIX) เพื่อใช้ในการปรับ
สัญญาคงค้างที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THBFIX อยู่เดิม โดยผู้ร่วมตลาดต้องเร่งเตรียมความพร้อมทั้งการปรับสัญญกระบวน
การและระบบงานที่จำเป็นเพื่อรองรับการใช้ Fallback Rate (THBFIX) 
อย่างไรก็ตาม ธปท. คาดว่าจะเผยแพร่อัตราดอกเบี้ย Fallback Rate (THBFIX) เป็นการชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2567 เท่านั้น
เนื่องจากความจำเป็นในการใช้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจจะหมดไปภายใน 3 ปี โดยจะมีการใช้อัตราดอกเบี้ย THOR
อ้างอิงในธุรกรรมต่างๆ อย่างแพร่หลายทดแทน
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย