ข้อผิดพลาด (Errors) ที่ต้องระมัดระวัง

การจัดทำบัญชีและการนำเสนองบการเงินจะเชื่อถือได้ต้องไม่มีข้อผิดพลาดทางบัญชี แต่ข้อผิดพลาดทางบัญชี
อาจเกิดขึ้นได้จากการรับรู้ การวัดมูลค่า ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี ไม่ว่าข้อผิดพลาดดังกล่าวนั้นจะมีสาระ
สำคัญหรือไม่มีสาระสำคัญก็ตาม การแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวหากเกิดขึ้นภายในรอบระยะบัญชีที่จัดทำรายงานการเงิน
กิจการก็สามารถแก้ไขได้ทันที แต่หากข้อผิดพลาดเกิดขึ้นภายหลังการออกงบการเงิน กิจการจะต้องมีการแก้ไข
ข้อผิดพลาดดังกล่าวในงวดบัญชีถัดไป หากข้อผิดพลาดมีสาระสำคัญจะต้องมีการปรับย้อนหลังงบการเงินฉบับแรก
เว้นแต่ไม่สามารถระบุจำนวนเงินที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในแต่ละรอบบัญชีได้

ข้อผิดพลาดในการนำนโยบายการบัญชีมาใช้ดังกล่าวรวมถึงผลกระทบจากการคำนวณผิดพลาด ข้อผิดพลาดจากการใช้
นโยบายการบัญชี การมองข้ามหรือการตีความข้อเท็จจริงผิดพลาดและการทุจริต ซึ่งอาจเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดจากปีหนึ่ง
แต่มาตรวจพบอีกปีหนึ่ง ดังนั้น ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกิจการจะต้องมีการปรับปรุงงบการเงิน โดยการแก้ไขข้อผิดพลาด
ของงวดบัญชีก่อน โดยการปรับงบการเงินฉบับแรกที่ได้รับอนุมัติให้เผยแพร่หลังจากที่พบข้อผิดพลาดดังกล่าว จะมี
ผลกระทบต่องบการเงิน เช่น

1. ข้อผิดพลาดที่มีผลต่องบดุล
1.1 บันทึกจำนวนเงินผิด
1.2 ลืมบันทึกบัญชีในสมุดรายวัน

2. ข้อผิดพลาดที่มีต่องบกำไรขาดทุน
กระทบต่อรายการในงบกำไรขาดทุน แต่ไม่มีผลต่อจำนวนกำไรสุทธิประจำงวด ได้แก่ การบันทึกรายได้หรือค่าใช้จ่าย
ผิดประเภท เช่น บันทึกค่าโฆษณา เป็นค่าเช่า ซึ่งทั้งสองตัวเป็นค่าใช้จ่ายเหมือนกัน แต่บันทึกบัญชีผิดประเภท
ซึ่งไม่มีผลต่อกำไรสุทธิ

3. ข้อผิดพลาดที่มีผลต่องบกำไรขาดทุนและงบแสดงฐานะการเงิน
3.1 ข้อผิดพลาดที่ได้รับการชดเชย ถ้าพบหลังจากเกิดข้อผิดพลาดผ่านไปแล้ว 2 ปี ไม่ต้องบันทึกบัญชีแก้ไข
ข้อผิดพลาด เพราะได้รับการชดเชยถูกต้องแล้ว เช่น ไม่ได้บันทึก “ค่าแรงค้างจ่าย” ในวันสิ้นงวดบัญชีปัจจุบันทำให้
3.2 ข้อผิดพลาดที่ไม่ได้รับการชดเชย ข้อผิดพลาดที่ผ่านไป 2 งวดติดต่อกัน ก็ยังไม่ได้รับการชดเชย เช่น บันทึก
“ซื้อทรัพย์สิน” เป็น “ค่าใช้จ่าย” ทำให้ สินทรัพย์ต่ำไป ค่าใช้จ่ายสูง กำไรต่ำในปีแรก ปีหลัง ๆ ตลอดอายุการใช้
งานทรัพย์สินค่าใช้จ่าย (ค่าเสื่อมราคา) ต่ำไป กำไรสูงไป ไม่ได้รับการชดเชยและจะหมดไปหลังจากการใช้
ทรัพย์สินแล้ว