ไวรัส RSV คืออะไรใครรู้บ้าง

โดย

 


สวัสดีครับท่านสมาชิกวารสาร Hr Society Magazine ทุกๆ ท่านครับ เวลาผ่านพ้นไปเร็วมากๆ เลยนะครับ เผลอแป๊บเดียว
ก็จะเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว และช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้บวกกับสภาพอากาศในบ้านเราที่ค่อนข้างคาดเดายากเสียด้วย
อาจส่งผลโดยตรงกับสุขภาพร่างกายของเรา และยิ่งถ้าเป็นในช่วงวัยเด็กด้วยแล้วร่างกายอาจยังไม่มีภูมิคุ้นกันที่มาก
เพียงพอ คอลัมน์ Health ฉบับนี้ ก็มีสาระความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโรคภัยต่างๆ มาฝากกันเช่นเคยครับ
กับเจ้าไวรัสที่มีชื่อว่า “RSV” 

ไวรัส RSV คืออะไร?
RSV เป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ มีชื่อเต็มๆ ว่า Respiratory Syncytial Virus เจ้าเชื้อไวรัสตัวนี้ก่อ
ให้เกิดอาการปอดอักเสบ และยังทำให้ร่างกายผลิตสารคัดหลั่งออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำมูก เสมหะ เป็นต้น เชื้อ
สามารถแพร่กระจายไปติดต่อสู้ผู้อื่นได้ง่ายโดยผ่านการ ไอ จาม อาการของโรคเริ่มแรกอาจดูเหมือนจะเป็นไข้หวัดปกติ
โดยเริ่มแรก คือ ปวดหัว มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหลและมีเสมหะ ไวรัส RSV สามารถเป็นได้ทุกเพศและทุกๆ ช่วงวัย แต่จะ
พบมากเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี

อาการแบบไหนนะถึงเรียกว่าติดเชื้อไวรัส RSV ?
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าอาการเบื้องต้นนั้นมีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดธรรมดาแทบจะทุกอย่าง แต่จะมีอาการ
แตกต่างออกไปที่สามารถสังเกตได้ก็คือ มีเสมหะมากกว่าปกติ มีอาการไอหนัก หายใจเร็วแรง หายใจแล้วมีเสียง เหนื่อย
หอบง่าย บริเวณปากหรือที่เล็บเป็นสีเขียวคล้ำเนื่องจากการขาดออกซิเจน ไข้ขึ้นสูงถึง 38 องศา สำหรับเด็กถ้า
หากอาการเป็นดังที่ว่ามาควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าอาการดังกล่าวเกิดจากเชื้อไวรัส RSV หรือเปล่าและหากได้รับ
เชื้อไวรัสแพทย์จะได้ทำการรักษาต่อไป

กลุ่มไหนหล่ะที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส RSV มากที่สุด?
กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสและจะมีอาการรุนแรงมากกว่าปกติ ได้แก่ ผู้ที่มีระบบของภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ดี
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่เกี่ยวกับปอด รวมไปถึงเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด และผู้สูงวัยที่มีอายุ
65 ปีขึ้นไป และอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายอีกด้วย

ทำอย่างไรนะถึงจะป้องกันไม่ให้เจ้าไวรัส RSV เกิดกับตัวเรา?
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อชนิดนี้ แต่สามารถทำได้อย่างง่ายดายใครๆ ก็ทำได้เหมือนกับการป้องกัน
โรคอื่นๆ ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันที่ดี ห่างไกลจาก
โรคภัยต่างๆ ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังทำกิจกรรมต่างๆ เสร็จสิ้น ทำความสะอาดบ้านเรือนเป็นประจำใช้น้ำยาถูพื้นที่มี
ประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรค แลยังเป็นการลดการกระจายของเชื้อโรคในวงกว้างได้อีกด้วย หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือ
อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นไข้หวัด ในกรณีเด็กทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อย่างขวดน้ำ ขวดนมให้นำไปต้มในน้ำร้อน
เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคไปในตัว

หากติดเชื้อไวรัส RSV จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรดี?
ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาตามอาการหากไม่รุนแรงมาก 1-2 สัปดาห์ก็จะหายกลับมาสดชื่นเป็นปกติ แต่สำหรับ
เด็กเล็กๆ และผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจต้องได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิดและถูกวิธี อย่างการรับประทานยาปฏิชีวนะในกรณีของ
ผู้ป่วยที่มีภาวะอาการแทรกซ้อนเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รับการพ่นยาเพื่อเป็นการขยายหลอดลม ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
และดูดน้ำมูกเพื่อให้มีการหายใจได้โล่งสบายขึ้น แต่ในทางที่ดีที่สุดหากไม่แน่ใจให้ควรไปปรึกษาแพทย์ครับ

สุขภาพเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้นะครับ ฉะนั้นเราต้องดูแลทั้งตัวเราเองและคนรอบข้างให้ดีที่สุด ด้วยรักและห่วงใยผู้อ่านทุกท่าน
ครับ ฉบับนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ 



ที่มา:
https://www.bumrungrad.com/healthspot/October-2015/rsv-virus
https://www.pobpad.com/ไวรัส-rsv
https://www.bangkokhospital.com/index.php/th/diseases-treatment/respiratory-syncytial-virus
https://www.honestdocs.co/respiratory-viruses-rsv-virus



Lifestyle : Health : SaiFahz
วารสาร : HR Society Magazine กันยายน 2561 


FaLang translation system by Faboba