"สภาวิชาชีพบัญชีฯ" เป็นองค์กรหลักที่มีบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแลและพัฒนานักบัญชีไทยนับว่าเป็นวาระสำคัญยิ่งในการที่สมาชิกของสภาวิชาชีพบัญชี จะได้มีโอกาสร่วมกันกำหนดทิศทางของวิชาชีพบัญชี ด้วยการแสดงพลังเลือกตั้งนายกสภาวิชาชีพบัญชีและกรรมการ ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2560 เวลา 8.00 - 15.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ห้องพลาซ่า โซน c
เอกสารภาษีอากร จึงไม่พลาดที่จะเกาะติดกระแสการเลือกตั้งโดยได้นำนโยบายของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่ง "นายกสภาวิชาชีพบัญชีและกรรมการ" ทั้ง 3 ท่าน จาก 3 คณะผู้สมัครเพื่อเผยแพร่ และใช้ในการตัดสินใจเลือกตั้งครั้งนี้
นโยบายของทีม ประสัณห์ เชื้อพานิช หมายเลข 1 |
![](/images/stories/content_marketing/tax_201705_02.png) |
ผลงานหลัก และขอให้เราทำงานต่อไป 1. ได้พัฒนามาตรฐานรายงานทางการเงินและมาตรฐานการสอบบัญชี ทำให้การประเมิน CG Watch 2016 (Asian Ranking) 2. Accounting & Auditing ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซียและดีกว่าฮ่องกงและไต้หวัน 3. ยกระดับผู้ทำบัญชีให้สามารถแข่งขันกับประเทศใน AEC ได้ด้วยโครงการ ASEAN Charter Professional Accountant 4. จัดทำหลักสูตรปริญญาตรีบัญชีให้สอดคล้องกับ IES (International Education Standard for Professional Accountant) 5. เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกด้วยหลักสูตรอบรมราคาพิเศษ 399-599 บาท ซึ่งมีผู้เข้าอบรมเกือบ 10,000 คน ในปี 2559 6. พัฒนาการบริการในระบบออนไลน์ให้สมาชิกทำรายการที่ไหนก็ได้ในเวลาที่สะดวกและปรับปรุงช่องทางรูปแบบในการสื่อสาร เผยแพร่ข่าวสาร ให้เข้าถึงสมาชิกให้มากขึ้น ง่ายขึ้นผ่าน Social media ต่างๆ 7. มีบทบาทและได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วน ในการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ทั้ง กลต. ตลท. คปภ. IOD กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร และหน่วยงานอื่นๆ
โครงการที่ดำเนินอยู่ และต้องทำให้ลุล่วง 1. ร่วมมือในการพัฒนาโครงการ Software บัญชีสำหรับ SMEs โดยใช้ระบบ POS Scan Barcode ผ่านมือถือ บันทึกข้อมูลซื้อขาย เพื่อลงบัญชีและจัดทำงบการเงิน งบกระแสเงินสด สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ อีกทั้งรองรับระบบ e-filing ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2. ดำเนินการต่อเนื่องในการส่งเสริมความรู้ เพื่อให้นักบัญชีสามารถพัฒนาเป็น CFO มืออาชีพ 3. ดำเนินการต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผู้ทำบัญชีในตลาดทุนและบริษัทที่จะเข้า IPO ด้วยหลักสูตร CFO course: Focus on Financial Reporting. 4. ร่วมกับ กลต. ตลท. และองค์กรอื่นๆ ในการจัดทำ CG code เพื่อเป็นแนวทางสำหรับกรรมการบริษัทในการกำกับดูแลกิจการที่ดี 5. ดำเนินการแปล COSO เป็นภาษาไทยให้ลุล่วง เพื่อจัดพิมพ์เผยแพร่ให้ทุกภาคส่วนใช้การพัฒนาระบบควบคุมภายในที่ดี 6. ยกระดับวิชาชีพบัญชีในระดับอุดมศึกษาด้วย Thailand Accounting Challenge ที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง 5 ปี มี 152 ทีมจาก 81 สถาบัน เข้าร่วมต่อยอดด้วยโครงการ Thailand Accounting Case Competition ที่จัดเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมนี้ 7. เร่งสานต่อในการพัฒนาคณาจารย์บัญชีในโครงการ Train the trainer โดยเน้นภูมิภาคให้มีองค์ความรู้ TFRS และเป็นช่องทางการพัฒนานักศึกษา และผู้ประกอบวิชาชีพในต่างจังหวัดต่อไป 8. เร่งพัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติมให้มีการใช้เทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการทำงานในยุคดิจิทอล เช่น IT Audit e-filing และ e-learning ในการเรียนรู้ เป็นต้น 9. ผลักดันเพื่อลดความแตกต่างระหว่างบัญชีและภาษีที่มีภาระต้นทุนต่อภาคธุรกิจ เช่นในเรื่อง Functional Currency
นโยบายของทีม จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล หมายเลข 2 |
![](/images/stories/content_marketing/tax_201705_03.png) |
นโยบายของ KN Team ต่อผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี โดย “ต่อยอดสิ่งที่ดีให้ดีขึ้น ปรับปรุงสิ่งบกพร่องให้ถูกต้อง”
1. ต่อนักบัญชี / ผู้สอบบัญชี / ผู้ประกอบธุรกิจ ระยะสั้น – ทำทันที 1.1 ปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี ให้ชัดเจน ไม่คลุมเครือ/อำพลาง สอดคล้องกับฐานะภาพของนักบัญชีและกิจการแต่ละขนาด เป็น 3 ระดับคือ ก. ระดับกิจการใน SET – ให้ใช้ TFRS for PAE ข. ระดับที่เกี่ยวข้องกับข้อ (ก) ให้ใช้ TFRS for SME ตามมาตรฐานสากล ค. ระดับเล็ก/ย่อม (ที่ไม่ใช่ ข้อ ก.และ ข.) ให้ใช้ TFRS for NPAE ต่อไป โดยแก้ไขปัญหาและความยุ่งยากที่ยังมีอยู่ในทางปฏิบัติให้ชัดเจน/เข้าใจง่าย/ใช้สะดวก และลดความแตกต่างกับภาษีอากร 1.2 ตั้งทีมติดตามและแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีทั้ง 3 ระดับ แก่นักบัญชี/ผู้สอบบัญชี ให้เกิดความชัดเจน/เข้าใจง่าย/ใช้สะดวก 1.3 เปิดคลินิกบัญชี/สอบบัญชี เพื่อเป็นที่พึ่ง ให้คำปรึกษาปัญหาทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี 1.4 ต่อยอดโครงการให้ความรู้งานตรวจสอบภายใน และเพื่อสอบ IIA ระยะกลาง 1.5 ยกระดับมาตรฐานสำนักงานทำบัญชี/สำนักงานสอบบัญชี โดยพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ (National Software – TSQC1) ที่เป็น ERP Base รองรับการใช้งานที่ง่าย/สะดวก/ครบถ้วน 1.6 ส่งเสริมผู้รับทำบัญชี/ผู้สอบบัญชีรายบุคคล เชื่อมโยงกับระดับสำนักงาน โดยใช้ระบบ ERP-IT ตาม (1.5) 1.7 จัดทำตัวอย่างการบันทึกบัญชี/การคำนวณ สำหรับแต่ละมาตรฐานบัญชีที่เป็นรูปธรรม/เข้าใจง่าย เพิ่มจากแนวปฏิบัติ 1.8 จัดให้มีการอบรมเพื่อสอบ CPA 1.9 จัดให้มีคู่มือเตรียมสอบ ในระบบ CD ROM หรือ On Line ซึ่งสมาชิกสามารถนำไปฝึกฝนด้วยตนเอง 1.10 เพิ่มช่องทางการทดสอบ CPA ให้มากขึ้นและสะดวกขึ้น ในเบื้องต้นผ่านสาขาทั้ง 12 แห่งของสภา 1.11 จัดให้สภาฯ เป็นศูนย์กลาง ระหว่าง “ผู้ให้บริการทำบัญชี”/ “สำนักงานสอบบัญชี”/ “ผู้ทำบัญชี”/ “ผู้สอบบัญชี”.และ “ผู้ประกอบการ” 1.12 ขยายการอบรมไปยังต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและส่งเสริมศักยภาพของนักผู้สอบบัญชีและผู้ทำบัญชีในภูมิภาค 1.13 เพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (โดยเฉพาะโครงการช่วยเหลือธุรกิจ SMEs Start Up) โดยให้ความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์ของข้อมูลบัญชีในการสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ
2. ต่อคณาจารย์ด้านการบัญชี และเทคโนโลยีการบัญชี ระยะสั้น – ทำทันที 2.1 ปรับปรุงโครงการพัฒนาผู้สอน (Train the trainer) โดยเพิ่มความถี่และช่องทางในการอบรมให้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกขึ้น เช่น ช่องทาง Online / CD / Youtube/ E-Book ฯลฯ ระยะกลาง 2.2 ประสานกับมหาวิทยาลัยที่สอนวิชาบัญชี เพื่อให้สถาบันการศึกษานับเวลาที่ครู/อาจารย์แต่ละท่านที่เสียสละเวลาช่วยงานวิชาการของสภาฯ เป็นผลงานทางวิชาการเพื่อปรับระดับฐานะทางวิชาการตามเกณฑ์ของแต่ละสถาบัน 2.3 พัฒนาหลักสูตรบัญชี/สอบบัญชีภาคปฏิบัติ โดยร่วมกับสถาบันการศึกษาสร้างหลักสูตรให้มีการทำงานจริงในห้องปฏิบัติการของแต่ละสถาบันให้นิสิต/นักศึกษาได้ทำจริงโดยระบบคอมพิวเตอร์ให้รู้รอบด้านในการทำบัญชี/สอบบัญชี 2.4 พัฒนาศูนย์กลางการวิจัยทางบัญชี/สอบบัญชี และสร้างสื่อเพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของคณาอาจารย์
3. ต่อการบริการสมาชิก ระยะสั้น – ทำทันที 3.1 ลดค่าธรรมเนียมสมาชิก โดยแก้ไขข้อบังคับจากธรรมเนียมสมาชิกปีละ 500 บาท เป็นปีละ 300 บาท เพื่อคืนกำไรแก่สมาชิก 3.2 ลดค่าสมัครสอบ CPA 3.3 ทบทวนอัตราค่าอบรมของสภาฯ ให้ลดลงจากเดิม 3.4 สานต่อหลักสูตรอบรมที่ อาจารย์สุพจน์ สิงห์เสน่ห์ ริเริ่มและได้ดำเนินการให้สมาชิกแล้ว คือ ก. หลักสูตรการบัญชี/สอบบัญชีราคาประหยัด 599 บาท ข. หลักสูตร Self Study CPD และ LEARN & TEST CPD ที่ใช้เวลาเข้าร่วมเพียง 1 วัน ได้ CPD ครบ 20 ชั่วโมง ค. หลักสูตรยกระดับผู้ทำบัญชี DIP TFR 3.5 แก้ไขปัญหา/อุปสรรคของบริการ Online เช่นเมื่อขาดต่ออายุ / การแจ้ง CPD / การแจ้งการสอบบัญชี
นโยบายของทีม ไพฑูรย์ ทวีผล หมายเลข 3 |
![](/images/stories/content_marketing/tax_201705_04.png) |
“สภาวิชาชีพบัญชีเป็นองค์กรของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี โดยผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี เพื่อผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี” ทีมไพฑูรย์จึงได้กำหนดนโยบายเพื่อการบริหารให้เป็นไปตามหลักการข้างต้นดังนี้
1. ปฏิรูป 1.1 ระบบสวัสดิการและผลตอบแทนที่เหมาะสมและยั่งยืนแก่สมาชิก 1.2 การให้บริการแก่สมาชิกในการจัดการทดสอบความรู้ของผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในภูมิภาค 1.3 จัดทำคลินิกวิชาชีพบัญชีทุกด้าน เพื่อให้สะดวกปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี 1.4 จัดให้มีคู่มือการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน 1.5 จัดทำคู่มือการบัญชีภาษีอากร เพื่อส่งเสริมสนับสนุนความเข้าใจในการปฏิบัติงานด้านภาษีอากรให้สอดคล้องกันระหว่างมาตรฐานการรายงานทางการเงินและประมวลรัษฎากร 1.6 ให้สภาวิชาชีพบัญชีเป็นแหล่งเรียนรู้โดยขอความร่วมมือสถาบันการศึกษาเกี่ยวกับงานวิจัยทางด้านวิชาชีพบัญชีที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิก รวมทั้งศึกษาและรวบรวมผลงานทางวิชาการออกเผยแพร่
2 แก้ไขและพัฒนา 2.1 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสภาฯ ให้มีความทันสมัยและรองรับการให้บริการในทุก ๆ ด้านให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2.2 ให้ข้อมูลข่าวสารทางวิชาการที่ทันต่อเหตุการณ์ผ่าน SOCIAL NETWORK ที่เป็นการสื่อสาร 2 ทาง 2.3 ศึกษาและนำเสนอเพื่อปรับปรุงพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ ของสภาวิชาชีพบัญชีให้ทันสมัยและเหมาะสมกับปัจจุบัน 2.4 ปรับปรุงการนำมาตรฐาน TFRS for SMEs มาใช้กับธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม ให้เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจในประเทศไทย และพร้อมก้าวไปสู่สากล โดยคำนึงถึงผลกระทบทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนำมาตรฐานดังกล่าวมาถือปฏิบัติ 2.5 พัฒนาวิชาชีพทั้ง 6 ด้านให้มีความเป็นเอกภาพและทัดเทียมอย่างเป็นรูปธรรม 2.6 ส่งเสริมให้มีการพัฒนาผู้สอนและวิทยากรด้านการบัญชี การสอบบัญชี การวางระบบบัญชี การบัญชีภาษีอากร หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพบัญชีในต่างจังหวัดและภูมิภาคมากขึ้นเพื่อให้บริการแก่สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนในภูมิภาคทั่วประเทศ 2.7 ส่งเสริมให้สภาฯ มีบทบาทมากขึ้นในองค์กรด้านการบัญชีระหว่างประเทศ ประกอบด้วย สหพันธ์นักบัญชีอาเซียน(Asean Federation of Accountants: AFA) สหพันธ์นักบัญชีนานาชาติ (International Federation of Accountants: IFAC) สหพันธ์นักบัญชีนานาชาติแห่งเอเชียและแปซิฟิค (Confederation of Asia and Pacific Accountants: CAPA)
3.ใส่ใจและดูแล 3.1ให้มีการประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีที่สร้างคุณประโยชน์ต่อวิชาชีพและสังคม 3.2 ให้มีสถานที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดในการปฏิบัติ เพื่อสัมพันธ์ภาพที่ดีของสมาชิกโดยเครื่องและสิ่งอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน 3.3 การบริการสมาชิกอาวุโสที่ไม่สามารถเข้าสื่อทาง SOCIALNETWORKได้ 3.4 ส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพทุกภาคส่วน ทุกระดับอายุ และนักวิชาการจากทุกสถาบันมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางเพื่อพัฒนาวิชาชีพบัญชี 3.5 เรียนเชิญอดีตนายกสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย และอดีตนายกสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางวิชาชีพและเคยทำคุณประโยชน์ให้วิชาชีพอย่างมากเป็นคณะที่ปรึกษาสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมและความเป็นสถาบันวิชาชีพบัญชีที่ได้วิวัฒนาการต่อเนื่องกันมาจนเป็นสภาวิชาชีพในปัจจุบัน 3.6 ส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพและเที่ยงธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรมแห่งวิชาชีพและมีค่าตอบแทนวิชาชีพที่เหมาะสม
4. ให้บริการ 4.1 มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีให้บริการแก่สมาชิกทุกระดับพร้อมทั้งรณรงค์และให้ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี เพื่อสะดวกในการติดต่อกับสภา 4.2 เข้าถึงสมาชิกทุกระดับโดยเปิดช่องทางการติดต่อที่หลากหลายและมีความเหมาะสมกับความต้องการของสมาชิก 4.3 จัดทำหลักสูตร E learning ให้สอดคล้องกับจำนวนชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องของผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี 4.4 ปรับปรุงงานด้าน Call Center ให้มีประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น 4.5 ให้มีกิจกรรมคืนประโยชน์สู่สังคม(CSR)อย่างเป็นรูปธรรม 4.6 ให้สมาชิกทุกภูมิภาคได้รับการฝึกอบรมอย่างทั่วถึงในราคาที่เหมาะสม
|